ตอนที่17 เอ็นมุซุบิ คืออะไร และที่ไหนคือสุดยอดแห่งสายมู
เอ็นมุซุบิ คืออะไร และที่ไหนคือสุดยอดแห่งสายมู
สิ่งหนึ่งที่คู่กับวัดและศาลเจ้าของประเทศต่างๆนั้นก็คือการขอพรในเรื่องต่างๆให้เป็นไปตามที่หวัง เอาไว้ วัดและศาลเจ้าของญี่ปุ่นก็ไม่ต่างกัน เรื่องดวงๆแบบนี้ก็เป็นนิยมในคนหมู่มากและเป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เวลาไปวัดหรือศาลเจ้าในของแต่ละที่เลย โดยจะมีทั้งการเสี่ยงเซียมซี ชำระล้างสิ่งไม่ดีออกจากตัวด้วยการนำกระดาษรูปคนไปลอยน้ำ หรือการเขียนคำอธิษฐานไว้บนป้ายไม้แล้วนำไปแขวน และที่เป็นที่นิยมสุดก็การขอพรเรื่องความสัมพันธ์หรือที่เรียกกันว่าเอ็นมุซุบิ (縁結び)นั่นเอง
Credit:https://4travel.jp/traveler/panchan7911
เราจะมาดูกันว่ามีเรื่องอะไรน่าสนใจและที่ไหนขึ้นชื่อว่าเป็นจุดสูงสุดของเรื่องพวกนี้
คำว่า เอ็นมุซุบิ นั้นประกอบไปด้วยคันจิตัว 縁(ดวง,โชคชะตา) และ 結び(การผูกเข้าด้วยกัน)
ถ้าแปลก็มีความหมายว่า การผูกดวงชะตา ถึงแม้ว่าหากพูดถึงคำนี้คนส่วนใหญ่อาจจะนึกถึงเรื่องความรักเป็นอย่างแรก แต่จริงๆแล้วคำๆนี้ไม่ได้จำกัดแค่นั้น แต่รวมถึงการพบเจอสิ่งต่างๆในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นโอกาสต่างๆ สิ่งที่ดีหรือแม้กระทั่งการเจอผู้คนใหม่ๆด้วย พูดง่ายๆก็เหมือนกับการขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่นั้นช่วยพาดวงของเราไปพบกับสิ่งที่หวัง นั่นเอง และแน่นอนว่าแต่ละศาลเจ้าหรือวัดก็จะมีเรื่องที่ขึ้นชื่อของตัวเองอยู่ และว่ากันว่าการขอพรในรูปแบบนี้พบเห็นได้และเป็นที่นิยมตั้งแต่ช่วงปลายยุคเอโดะ
แต่ที่ๆเรียกได้ว่าเป็นจุดสูงสุดเกี่ยวกับเรื่อง เอ็นมุซุบิ ก็คือศาลเจ้าอิซุโมะ(出雲大社)ของจังหวัดชิมะเนะที่อยู่ใกล้ๆกับฮิโรชิมะนั่นเอง สาเหตุเพราะว่ามีตำนานเก่าแก่มากมายที่อ้างว่าศาลเจ้านี้เกี่ยวข้องกับเทพเจ้า โอคุนินุชิ(大国主) ซึ่งตามตำนานเล่าว่าเป็นเทพเจ้าที่วางรางฐานของทั้งเรื่องการเพาะปลูก การประมง รวมทั้งการแพทย์ และชี้นำให้เกาะญี่ปุ่นไปในทางที่ถูกต้องตั้งแต่สมัยเริ่มต้นก่อนจะเป็นประเทศ (หากจะให้ตีความตำนานนี้ว่าจะสื่ออะไรก็คงหนีไม่พ้นว่าจะต้องเป็นเรื่องของต้นราชวงค์ญี่ปุ่นที่กำลังวางรากฐานอำนาจให้มั่นคง)
Credit:https://kyotra.com/kyoto-jishujinja/
แล้วเทพเจ้าองค์นี้เกี่ยวกับเรื่องโชคชะตายังไง?
คำตอบก็คือความเชื่อเหล่านี้ทำให้ผู้คนนับถือเทพโอคุนินุชิในฐานะของเทพเจ้าที่คอยเชื่อมโยงและนำทางโชคชะตาของคนในประเทศให้ไปเจอแต่เรื่องดีๆนั่นเอง
Credit:https://www.kankou-shimane.com/pickup/14816.html
นอกจาก โอคุนินุชิ ที่เป็นเทพเจ้าสำคัญแล้ว คนสมัยก่อนยังมีความเชื่อว่าศาลเจ้าอิซุโมะแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เทพเจ้าทั้งหมดของญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันในเดือนตุลาคมของทุกๆปี และคนจากพื้นที่อื่นจะเรียกช่วงเวลานี้ว่า คามินะซึกิ(神無月)ที่แปลว่า เดือนที่ไม่มีเทพเจ้า เพราะเทพเจ้าของพื้นที่ตัวเองนั้นไปรวมตัวที่ศาลเจ้าอิซุโมะแล้ว
นอกจากนี้ยังเป็นศาลเจ้าที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยมีบันทึกว่าตัวศาลเจ้าหลักนั้นเคยมีขนาดใหญ่ว่าวัดโทไดจิ ของจังหวัดนาระเลยทีเดียว เรียกได้ว่าคงไม่มีที่ไหนที่จะขลังได้เท่านี้อีกแล้ว จึงทำให้คนญี่ปุ่นยกให้ศาลเจ้านี้เป็นที่สุดของเรื่อง เอ็นมุซุบิ กันเลย ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นรอบหน้าสายมูทั้งหลายก็อย่าลืมแวะไปกันล่ะ